คำแนะนำการใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ภาคกลาง
การใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ ใส่ปุ๋ยรองพื้นในวันปักดำ หรือหลังหว่านข้าว 20 วัน และปุ๋ยแต่งหน้าที่ระยะข้าวแตกกอสูงสุด และระยะกำเนิดช่อดอก โดยใช้อัตราดังนี้
การใส่ปุ๋ย |
ข้าวไวต่อช่วงแสง |
ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง |
ปุ๋ยรองพื้น 16-20-0 หรือ 16-16-8 |
25 กิโลกรัมต่อไร่ |
30 กิโลกรัมต่อไร่ |
ปุ๋ยแต่งหน้า 46-0-0 |
5 กิโลกรัมต่อไร่ |
10 กิโลกรัมต่อไร่ |
ปุ๋ยรองพื้นที่ใช้สามารถใช้แม่ปุ๋ยผสมใช้แทนได้ การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ปริมาณธาตุอาหารหลักที่ใส่ในนาข้าวตามค่า
อินทรียวัตถุ(%) ที่วิเคราะห์ได้ |
ปริมาณไนโตรเจน |
ปริมาณฟอสฟอรัส |
ปริมาณโพแทสเซียม |
|||
ไวแสง (กก.N/ไร่) |
ไม่ไวแสง (กก.N/ไร่) |
ที่วิเคราะห์ได้ (ppm) |
ที่ต้องใส่ (กก.P2O5/ไร่) |
ที่วิเคราะห์ได้ (ppm) |
ที่ต้องใส่ (กก.K2O/ไร่) |
|
น้อยกว่า 1 |
9 |
18 |
น้อยกว่า 5 |
6 |
น้อยกว่า 60 |
6 |
1-2 |
6 |
12 |
5-10 |
3 |
60-80 |
3 |
มากกว่า 2 |
3 |
6 |
มากว่า 10 |
0 |
มากว่า 80 |
0 |
ศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 950 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ พิษณุโลก 2 กข31 กข41 และสุพรรณบุรี 1 พื้นที่ส่วนใหญ่มีความเหมาะสมมากต่อการปลูกข้าว การจัดการที่เหมาะสมสามารถเพิ่มผลผลิตได้ประมาณ ร้อยละ 30
ระดับความเหมาะสมของดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการเพาะปลูก |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 |
ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 กข31(ปทุมธานี 80) |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
959 |
L3 |
ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 กข31(ปทุมธานี 80) |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
ไม่มีข้อมูล |
ศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 550 |
|
ผลผลิตปานกลาง |
R2 |
451-550 |
|
ผลผลิตต่ำมาก |
R4 |
< 350 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ พิษณุโลก 2 กข31 กข29 กข41 กข47 และสุพรรณบุรี 1 พื้นที่มีความเหมาะสมมากต่อการปลูกข้าวมากและปานกลางเป็นส่วนใหญ่ การจัดการที่เหมาะสมสามารถเพิ่มผลผลิตได้ มากกว่า 550 กิโลกรัมต่อไร่ โดยให้ผลผลิตสูงสุดได้มากกว่า 1,000 กิโลกรัมต่อไร่
ระดับความเหมาะสมของดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการเพาะปลูก |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 |
พิษณุโลก 2 กข31 กข29 กข47 |
ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือค่าวิเคราะห์ดิน |
1,055 |
L2 |
พิษณุโลก 2 กข31 กข29 กข47
|
ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือค่าวิเคราะห์ดิน |
975 |
ศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 550 |
|
ผลผลิตปานกลาง |
R2 |
450-550 |
|
ผลผลิตต่ำ |
R3 |
350-450 |
|
ผลผลิตต่ำมาก |
R4 |
< 350 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 กข31 กข29 กข47 และ กข41 พื้นที่มีความเหมาะสมต่อการปลูกข้าวมาก และเหมาะสมปานกลางประมาณร้อยละ 70 และ 30 ตามลำดับ การจัดการที่เหมาะสมช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้ประมาณ ร้อยละ 20
ระดับความเหมาะสมของดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการเพาะปลูก |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 |
สุพรรณบุรี 1 สุพรรณบุรี 3 สุพรรณบุรี 60 ปทุมธานี 1 ชัยนาท 1 พิษณุโลก 2 กข29 และ กข31 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
957 |
L2 |
สุพรรณบุรี 1 สุพรรณบุรี 3 สุพรรณบุรี 60 ปทุมธานี 1 ชัยนาท 1 พิษณุโลก 2 กข29 และ กข31 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
926 |
Loc |
สุพรรณบุรี 1 สุพรรณบุรี 3 สุพรรณบุรี 60 ปทุมธานี 1 ชัยนาท 1 พิษณุโลก 2 กข29 และ กข31 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
ไม่มีข้อมูล |
การใช้เทคโนโลยีการใส่ปุ๋ยเคมีที่ถูกต้องและเหมาะสม สามารถเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าว โดยรวมได้ยกระดับผลผลิตข้าวของจังหวัดนครนายก ให้สูงขึ้นประมาณ ร้อยละ 37 โดยในเขตชลประทาน จากระดับที่ 2 คือ ผลผลิต 450-550 กิโลกรัมต่อไร่ และระดับที่ 1 คือ มากกว่า 550 กิโลกรัมต่อไร่ เป็น มากกว่า 700 กิโลกรัมต่อไร่ และเพิ่มพื้นที่ที่ให้ผลผลิตมากกว่า 550 กิโลกรัมต่อไร่ ได้มากขึ้น ส่วนพื้นที่อาศัยน้ำฝน สามารถยกระดับศักยภาพการผลิต จากระดับที่ 2 เป็นระดับที่ 1 และปรับผลิตระดับที่ 4 ให้เป็นระดับที่ 2 ได้ ในเขตที่สามารถหาแหล่งน้ำเพิ่มเติมได้ ตามสัดส่วนของพื้นที่
ศักยภาพการผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี ของจังหวัดนครนายก
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กก.ไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
1 |
>550 |
80 |
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูก ในฤดูนาปี ได้แก่ พันธุ์เหลืองประทิว 123 ขาวตาแห้ง 17 และ ขาวดอกมะลิ 105 และในฤดูนาปรัง ได้แก่ พันธุ์สุพรรณบุรี 1 ชัยนาท 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 และสุพรรณบุรี 60 กระจายตามสัดส่วนของพื้นที่ มีการจัดการเพาะปลูกและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม สามารถให้ผลผลิตสูงสุด 720 กิโลกรัมต่อไร่
ดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการ |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 เหมาะสมมาก |
สุพรรณบุรี 1,ชัยนาท 1 ปทุมธานี 1,พิษณุโลก 2 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม |
559 |
ขาวดอกมะลิ 105 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม |
320 |
|
L2 เหมาะสมปานกลาง |
สุพรรณบุรี 1,ชัยนาท 1 |
ปลูกวิธีหว่าน้ำตม |
685 |
L3 เหมาะสมน้อย |
สุพรรณบุรี 1,ชัยนาท 1 |
ปลูกวิธีหว่าน้ำตม |
720 |
การใช้ปุ๋ยตามคำแนะนำ ใช้ปุ๋ยสูตร 16-12-8, 18-12-6 หรือ 16-20-0 เป็นปุ๋ยรองพื้นหลังหว่านข้าว 20 วัน และปุ๋ย 46-0-0 เป็นปุ๋ยแต่งหน้าระยะข้าวแตกกอและระยะกำเนิดช่อดอก โดยใช้อัตราตามชนิดของข้าว ดังนี้
ระยะการใส่ปุ๋ย |
ข้าวไวต่อช่วงแสง |
ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง |
ปุ๋ยรองพื้น 16-12-8,18-12-6 หรือ 16-20-0 |
25 กิโลกรัมต่อไร่ |
30 กิโลกรัมต่อไร่ |
ปุ๋ยแต่งหน้า 46-0-0 |
5 กิโลกรัมต่อไร่ |
10 กิโลกรัมต่อไร่ |
ซึ่งจะทำให้ได้ปุ๋ยอัตรา 6-6-6 หรือ 6-6-0 กก.N-P2O5-K2O/ไร่ สำหรับข้าวไวต่อช่วงแสง และ 12-6-6 หรือ 12-6-0 กก.N-P2O5-K2O/ไร่ สำหรับข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง โดยประมาณ ตามลำดับ
การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ปริมาณธาตุอาหารหลัก ที่ใส่ในนาข้าว ตามค่าวิเคราะห์ดิน
อินทรียวัตถุ (%) ที่วิเคราะห์ได |
ปริมาณไนโตรเจน |
ปริมาณฟอสฟอรัส |
ปริมาณโพแทสเซียม |
|||
ข้าวไวต่อช่วงแสง (กก.N/ไร่) |
ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง (กก.N/ไร่) |
ที่วิเคราะห์ได้(ส่วนในล้าน ส่วน) |
ที่ต้องใส่(กก.P2O5/ไร่) |
ที่วิเคราะห์ได้(ส่วนในล้าน ส่วน) |
ที่ต้องใส่(กก.K2O/ไร่) |
|
น้อยกว่า 1 |
9 |
18 |
น้อยกว่า 5 |
6 |
น้อยกว่า 60 |
6 |
1 – 2 |
6 |
12 |
5 - 10 |
3 |
60 - 80 |
3 |
มากกว่า 2 |
3 |
6 |
มากกว่า 10 |
0 |
มากกว่า 80 |
0 |
ศักยภาพผลผลิตข้าว จากการใช้เทคโนโลยี จังหวัดนครปฐม การทดสอบเทคโนโลยีที่เหมาะสม สามารถยกระดับผลผลิตของพื้นที่ปลูกข้าวของจังหวัดจังหวัดนครปฐม มากกว่า 550 กิโลกรัมต่อไร่ ให้เป็นระดับที่ ได้เกือบทั้งหมด ตามสัดส่วนของพื้นที่
ศักยภาพการให้ผลผลิตข้าว จังหวัดนครปฐม
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กก.ไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
1 |
>550 |
80 |
ผลผลิตปานกลาง |
2 |
450-550 |
10 |
ผลผลิตน้อย |
3 |
350-450 |
10 |
พันธุ์ข้าวที่เป็นที่นิยมปลูกในพื้นที่จังหวัดนครปฐม คือ พันธุ์ สุพรรณบุรี 1 (65%) ปทุมธานี 1 (5%) และชัยนาท (5%) มีการจัดการเพาะปลูกและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม สามารถให้ผลผลิตสูงสุด 1,085 กิโลกรัมต่อไร่
ดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการ |
ผลผลิตข้าวสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 เหมาะสมมาก |
สุพรรณบุรี 1 สุพรรณบุรี 3 สุพรรณบุรี 60 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยอัตราตามคำแนะนำ |
1,085 |
L2 เหมาะสมปานกลาง |
สุพรรณบุรี 1 สุพรรณบุรี 3 สุพรรณบุรี 60 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยอัตราตามคำแนะนำ หรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
850 |
L3 เหมาะสมปานกลาง |
สุพรรณบุรี 1 สุพรรณบุรี 3 สุพรรณบุรี 60 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยอัตราตามคำแนะนำ หรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
710 |
คำแนะนำการใช้เทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมการใช้ปุ๋ยตามคำแนะนำ ใช้ปุ๋ยสูตร 16-12-8, 18-12-6 หรือ 16-20-0 เป็นปุ๋ยรองพื้นหลังหว่านข้าว 20 วัน และปุ๋ย 46-0-0 เป็นปุ๋ยแต่งหน้าระยะข้าวแตกกอและระยะกำเนิดช่อดอก โดยใช้อัตราตามชนิดของข้าว ดังนี้
ระยะการใส่ปุ๋ย |
ข้าวไวต่อช่วงแสง |
ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง |
ปุ๋ยรองพื้น 16-12-8,18-12-6 หรือ 16-20-0 |
25 กิโลกรัมต่อไร่ |
30 กิโลกรัมต่อไร่ |
ปุ๋ยแต่งหน้า 46-0-0 |
5 กิโลกรัมต่อไร่ |
10 กิโลกรัมต่อไร่ |
ซึ่งจะทำให้ได้ปุ๋ยอัตรา 6-6-6 หรือ 6-6-0 กก.N-P2O5-K2O/ไร่ สำหรับข้าวไวต่อช่วงแสง และ 12-6-6 หรือ 12-6-0 กก.N-P2O5-K2O/ไร่ สำหรับข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง โดยประมาณ ตามลำดับ
การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ปริมาณธาตุอาหารหลัก ที่ใส่ในนาข้าว ตามค่าวิเคราะห์ดิน
อินทรียวัตถุ (%) ที่วิเคราะห์ได้ |
ปริมาณไนโตรเจน |
ปริมาณฟอสฟอรัส |
ปริมาณโพแทสเซียม |
|||
ข้าวไวแสง (กก.N/ไร่) |
ข้าวไม่ไวแสง (กก.N/ไร่) |
ที่วิเคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ (กก.P2O5/ไร่) |
ที่วิเคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ (กก.K2O/ไร่) |
|
น้อยกว่า 1 |
9 |
18 |
น้อยกว่า 5 |
6 |
น้อยกว่า 60 |
6 |
1 – 2 |
6 |
12 |
5 - 10 |
3 |
60 - 80 |
3 |
มากกว่า 2 |
3 |
6 |
มากกว่า 10 |
0 |
มากกว่า 80 |
0 |
ระดับศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 550 |
|
ผลผลิตปานกลาง |
R2 |
450-550 |
|
ผลผลิตต่ำ |
R3 |
350-450 |
|
ผลผลิตต่ำมาก |
R4 |
< 350 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 กข31 กข41 กข47 และขาวดอกมะลิ 105 กระจายอยู่ตามพื้นที่ที่มีความเหมาะสมมากต่อการปลูกข้าวมากและปานกลางเป็นส่วนใหญ่ การจัดการที่เหมาะสมสามารถยกระดับผลผลิตมากกว่า 550 กิโลกรัมต่อไร่
ระดับความเหมาะสมของดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการเพาะปลูก |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 กข31 กข41 กข47 และขาวดอกมะลิ105 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
835 |
L2 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 กข31 กข41 กข47 และขาวดอกมะลิ105 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
486 |
L3 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 กข31 กข41 กข47 และขาวดอกมะลิ105 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
450 |
Loc |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 กข31 กข41 กข47 และขาวดอกมะลิ105 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
349 |
ศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 550 |
|
ผลผลิตปานกลาง |
R2 |
450-550 |
|
ผลผลิตต่ำ |
R3 |
350-450 |
|
ผลผลิตต่ำมาก |
R4 |
< 350 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 กข31 และ กข41 และขายเป็นเมล็ดพันธุ์ พื้นที่มีความเหมาะสมต่อการปลูกข้าวมาก และเหมาะสมน้อย ประมาณร้อยละ 80 และ 20 ตามลำดับ การจัดการที่เหมาะสมช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้ประมาณ ร้อยละ 20
ระดับความเหมาะสมของดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการเพาะปลูก |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 และ กข31
|
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
1,092 |
L2 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 และ กข31
|
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
1,116 |
การทดสอบเทคโนโลยีที่เหมาะสมสามารถยกระดับผลผลิตขึ้นมาเป็นที่ระดับ มากกว่า 550 กิโลกรัมต่อไร่ ทั้งหมด ตามสัดส่วนของพื้นที่
ศักยภาพการให้ผลผลิตข้าว ของจังหวัดปทุมธานี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กก.ไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
1 |
>550 |
100 |
พันธุ์ข้าวที่สามารถปลูกในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี อย่างน้อยมี 4 พันธุ์ ได้แก่ สุพรรณบุรี1 ชัยนาท1 พิษณุโลก2 และ ปทุมธานี1 กระจายอยู่ตามพื้นที่ ที่มีความเหมาะสมหรือหน่วยแผนที่ดินต่างกัน มีการจัดการเพาะปลูกและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม สามารถให้ผลผลิตสูงสุด 795 กิโลกรัมต่อไร่
ดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการ |
ผลผลิตข้าวสูงสุด |
L1 เหมาะสมมาก |
สุพรรณบุรี 1, ชัยนาท 1 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม |
745 |
L3 เหมาะสมน้อย |
สุพรรณบุรี 1, ชัยนาท 1 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม |
795 |
การใช้ปุ๋ยตามคำแนะนำ ใช้ปุ๋ยสูตร 16-12-8, 18-12-6 หรือ 16-20-0 เป็นปุ๋ยรองพื้นหลังหว่านข้าว 20 วัน และปุ๋ย 46-0-0 เป็นปุ๋ยแต่งหน้าระยะข้าวแตกกอและระยะกำเนิดช่อดอก โดยใช้อัตราตามชนิดของข้าว ดังนี้
ระยะการใส่ปุ๋ย |
ข้าวไวต่อช่วงแสง |
ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง |
ปุ๋ยรองพื้น 16-16-8,16-12-8 18-12-6 หรือ 16-20-0 |
25 กิโลกรัมต่อไร่ |
30 กิโลกรัมต่อไร่ |
ปุ๋ยแต่งหน้า 46-0-0 |
5 กิโลกรัมต่อไร่ |
10 กิโลกรัมต่อไร่ |
ซึ่งจะทำให้ได้ปุ๋ยอัตรา 6-6-6 หรือ 6-6-0 กก.N-P2O5-K2O/ไร่ สำหรับข้าวไวต่อช่วงแสง และ 12-6-6 หรือ 12-6-0 กก.N-P2O5-K2O/ไร่ สำหรับข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง โดยประมาณ ตามลำดับ
การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ปริมาณธาตุอาหารหลักที่ใส่ในนาข้าวตามค่าวิเคราะห์ดิน
อินทรียวัตถุ (%) ที่วิเคราะห์ได้ |
ปริมาณไนโตรเจน |
ปริมาณฟอสฟอรัส |
ปริมาณโพแทสเซียม |
|||
ข้าวไวแสง (กก.N/ไร่) |
ข้าวไม่ไวแสง (กก.N/ไร่) |
ที่วิเคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ (กก.P2O5/ไร่) |
ที่วิเคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ (กก.K2O/ไร่) |
|
น้อยกว่า 1 |
9 |
18 |
น้อยกว่า 5 |
6 |
น้อยกว่า 60 |
6 |
1 – 2 |
6 |
12 |
5 - 10 |
3 |
60 - 80 |
3 |
มากกว่า 2 |
3 |
6 |
มากกว่า 10 |
0 |
มากกว่า 80 |
0 |
ระดับศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 550 |
|
ผลผลิตปานกลาง |
R2 |
450-550 |
|
ผลผลิตต่ำ |
R3 |
350-450 |
|
ผลผลิตต่ำมาก |
R4 |
< 350 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ สุพรรณบุรี 1 พิษณุโลก 2 กข47 และ กข41 พื้นที่มีความเหมาะสมต่อการปลูกข้าวมาก และเหมาะสมน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่ดินเปรี้ยวประมาณร้อยละ 80 และ 20 ตามลำดับ การจัดการที่เหมาะสมช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้ประมาณ ร้อยละ 20
ระดับความเหมาะสมของดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการเพาะปลูก |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 ชัยนาท 1 พิษณุโลก 2 กข31 ขาวดอกมะลิ105 ขาวตาแห้ง 17 อยุธยา1 ปราจีนบุรี 1 กข 35 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตมหรือปลูกโดยวิธีโยนกล้า ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
873
550 |
L2 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 ชัยนาท 1 พิษณุโลก 2 กข31 ขาวดอกมะลิ105 ขาวตาแห้ง 17 อยุธยา1 ปราจีนบุรี 1 กข 35 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตมหรือปลูกโดยวิธีโยนกล้า ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
700
500 |
L3 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 ชัยนาท 1 พิษณุโลก 2 กข31 ขาวดอกมะลิ105 ขาวตาแห้ง 17 อยุธยา1 ปราจีนบุรี 1 กข 35
|
ปลูกวิธีหว่านน้ำตมหรือปลูกโดยวิธีโยนกล้า ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
631
450 |
ศักยภาพการให้ผลผลิตข้าว ของจังหวัดพิจิตร
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กก.ไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
1 |
>550 |
100 |
พันธุ์ข้าวที่สามารถปลูกได้ดีในพื้นที่จังหวัดพิจิตร สุพรรณบุรี1 ขาวดอกมะลิ105 ชัยนาท1กระจายอยู่ตามพื้นที่ ที่มีความเหมาะสมหรือหน่วยแผนที่ดินต่างกัน มีการจัดการเพาะปลูกและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม สามารถให้ผลผลิตสูงสุด 961 กิโลกรัมต่อไร่
ดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการ |
ผลผลิตข้าวสูงสุด(กก./ไร่) |
L1เหมาะสมมาก |
สุพรรณบุรี1 ขาวดอกมะลิ105 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม การใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ หรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
947 |
L2 เหมาะสมปานกลาง |
สุพรรณบุรี1 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม การใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ หรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
961 |
L3เหมาะสมน้อย |
ขาวดอกมะลิ105 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม การใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ หรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
710 |
การใช้ปุ๋ยตามคำแนะนำ ใช้ปุ๋ยสูตร 16-12-8, 18-12-6 หรือ 16-20-0 เป็นปุ๋ยรองพื้นหลังหว่านข้าว 20 วัน และปุ๋ย 46-0-0 เป็นปุ๋ยแต่งหน้าระยะข้าวแตกกอและระยะกำเนิดช่อดอก โดยใช้อัตราตามชนิดของข้าว ดังนี้
ระยะการใส่ปุ๋ย |
ข้าวไวต่อช่วงแสง |
ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง |
ปุ๋ยรองพื้น 16-12-8,18-12-6หรือ 16-20-0 |
25 กิโลกรัมต่อไร่ |
30 กิโลกรัมต่อไร่ |
ปุ๋ยแต่งหน้า 46-0-0 |
5 กิโลกรัมต่อไร่ |
10 กิโลกรัมต่อไร่ |
ซึ่งจะทำให้ได้ปุ๋ยอัตรา 6-6-6 หรือ 6-6-0 กก.N-P2O5-K2O/ไร่ สำหรับข้าวไวต่อช่วงแสง และ 12-6-6 หรือ 12-6-0 กก.N-P2O5-K2O/ไร่ สำหรับข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง โดยประมาณ ตามลำดับ
การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ปริมาณธาตุอาหารหลักที่ใส่ในนาข้าวตามค่าวิเคราะห์ดิน
อินทรียวัตถุ (%) ที่วิเคราะห์ได้ |
ปริมาณไนโตรเจน |
ปริมาณฟอสฟอรัส |
ปริมาณโพแทสเซียม |
|||
ข้าวไวแสง (กก.N/ไร่) |
ข้าวไม่ไวแสง (กก.N/ไร่) |
ที่วิคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ (กก.P2O5/ไร่) |
ที่วิคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ (กก.K2O/ไร่) |
|
น้อยกว่า 1 |
9 |
18 |
น้อยกว่า 5 |
6 |
น้อยกว่า 60 |
6 |
1 – 2 |
6 |
12 |
5 - 10 |
3 |
60 - 80 |
3 |
มากกว่า 2 |
3 |
6 |
มากกว่า 10 |
0 |
มากกว่า 80 |
0 |
ศักยภาพการให้ผลผลิตข้าว ของจังหวัดพิษณุโลก
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กก.ไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
1 |
>550 |
95 |
พื้นที่อื่นๆ |
5 |
พันธุ์ข้าวที่สามารถปลูกได้ดีในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลกได้แก่ สุพรรณบุรี 1 พิษณุโลก 2ชัยนาท 1 ขาวดอกมะลิ 105 กระจายอยู่ตามพื้นที่ที่มีความเหมาะสมหรือหน่วยแผนที่ดินต่างกัน มีการจัดการเพาะปลูกและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม สามารถให้ผลผลิตสูงสุด 1,022 กิโลกรัม ต่อไร่
ดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการ |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1เหมาะสมมาก |
สุพรรณบุรี 1 พิษณุโลก 2 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม การใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ หรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
1,022 |
L2 เหมาะสมปานกลาง |
สุพรรณบุรี 1 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม การใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ หรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
890 |
L3เหมาะสมน้อย |
ขาวดอกมะลิ 105 |
ปลูกวิธีปักดำ การใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ หรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
780 |
การใช้ปุ๋ยตามคำแนะนำ ใช้ปุ๋ยสูตร 16-12-8, 18-12-6 หรือ 16-20-0 เป็นปุ๋ยรองพื้นหลังหว่านข้าว 20 วัน และปุ๋ย 46-0-0 เป็นปุ๋ยแต่งหน้าระยะข้าวแตกกอและระยะกำเนิดช่อดอก โดยใช้อัตราตามชนิดของข้าว ดังนี้
ระยะการใส่ปุ๋ย |
ข้าวไวต่อช่วงแสง |
ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง |
ปุ๋ยรองพื้น 16-12-8 18-12-6 หรือ 16-20-0 |
25 กิโลกรัมต่อไร่ |
30 กิโลกรัมต่อไร่ |
ปุ๋ยแต่งหน้า 46-0-0 |
5 กิโลกรัมต่อไร่ |
10 กิโลกรัมต่อไร่ |
ซึ่งจะทำให้ได้ปุ๋ยอัตรา 6-6-6 หรือ 6-6-0 กก.N-P2O5-K2O/ไร่ สำหรับข้าวไวต่อช่วงแสง และ 12-6-6 หรือ 12-6-0 กก.N-P2O5-K2O/ไร่ สำหรับข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง โดยประมาณ ตามลำดับ
การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ปริมาณธาตุอาหารหลักที่ใส่ในนาข้าวตามค่าวิเคราะห์ดิน
อินทรียวัตถุ (%) ที่วิเคราะห์ได้ |
ปริมาณไนโตรเจน |
ปริมาณฟอสฟอรัส |
ปริมาณโพแทสเซียม |
|||
ข้าวไวแสง (กก.N/ไร่) |
ข้าวไม่ไวแสง (กก.N/ไร่) |
ที่วิคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ (กก.P2O5/ไร่) |
ที่วิคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ (กก.K2O/ไร่) |
|
น้อยกว่า 1 |
9 |
18 |
น้อยกว่า 5 |
6 |
น้อยกว่า 60 |
6 |
1 – 2 |
6 |
12 |
5 - 10 |
3 |
60 - 80 |
3 |
มากกว่า 2 |
3 |
6 |
มากกว่า 10 |
0 |
มากกว่า 80 |
0 |
ศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 550 |
|
ผลผลิตปานกลาง |
R2 |
450-550 |
|
ผลผลิตต่ำ |
R3 |
350-450 |
|
ผลผลิตต่ำมาก |
R4 |
< 350 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ ขาวดอกมะลิ 105 ลืมผัว สุพรรณบุรี 1 พิษณุโลก 2 และชัยนาท 1 พื้นที่มีความเหมาะสมมากต่อการปลูกข้าวมากเป็นส่วนใหญ่ การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมสามารถเพิ่มผลผลิตได้สูงสุด 550 กิโลกรัมต่อไร่ เกือบทั้งหมด
ระดับความเหมาะสมของดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการเพาะปลูก |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 |
ขาวดอกมะลิ 105 ลืมผัว สุพรรณบุรี 1 พิษณุโลก 2 และชัยนาท 1 |
ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือค่าวิเคราะห์ดิน |
587 |
L2 |
ขาวดอกมะลิ 105 ลืมผัว สุพรรณบุรี 1 พิษณุโลก 2 และชัยนาท 1 |
ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือค่าวิเคราะห์ดิน |
518 |
L3 |
ขาวดอกมะลิ 105 ลืมผัว สุพรรณบุรี 1 พิษณุโลก 2 และชัยนาท 1 |
ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือค่าวิเคราะห์ดิน |
ไม่มีใข้อมูล |
Loc |
ขาวดอกมะลิ 105 ลืมผัว สุพรรณบุรี 1 พิษณุโลก 2 และชัยนาท 1 |
ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือค่าวิเคราะห์ดิน |
ไม่มีใข้อมูล |
ศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 550 |
|
ผลผลิตปานกลาง |
R2 |
450-550 |
|
ผลผลิตต่ำ |
R3 |
350-450 |
|
ผลผลิตต่ำมาก |
R4 |
< 350 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 กข31 และ กข41 กระจายอยู่ตามพื้นที่ที่มีความเหมาะสมมากต่อการปลูกข้าวเป็นส่วนใหญ่ และเหมาะสมปานกลางประมาณร้อยละ 20 การจัดการที่เหมาะสมช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้ประมาณ ร้อยละ 20
ระดับความเหมาะสมของดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการเพาะปลูก |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 กข31 และ กข41
|
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
914 |
L2 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 กข31 และ กข41 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
550 |
L3 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 กข31 และ กข41 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
349 |
ศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 550 |
|
ผลผลิตปานกลาง |
R2 |
450-550 |
|
ผลผลิตต่ำ |
R3 |
350-450 |
|
ผลผลิตต่ำมาก |
R4 |
< 350 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 กข41 และสุพรรณบุรี 90 พื้นที่มีความเหมาะสมมากต่อการปลูกข้าวมาก ส่วนใหญ่อยู่ด้านบนของอำเภอบางบ่อ การจัดการที่เหมาะสมสามารถเพิ่มผลผลิตได้ ประมาณร้อยละ 20
ระดับความเหมาะสมของดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการเพาะปลูก |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 |
พิษณุโลก 2 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ |
849 |
ศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 550 |
|
ผลผลิตปานกลาง |
R2 |
451-550 |
|
ผลผลิตต่ำ |
R3 |
350-450 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 ปทุมธานี 60 และสุพรรณบุรี 1 พื้นที่ส่วนใหญ่มีความเหมาะสมต่อการปลูกข้าวมาก พื้นที่ปลูกข้าวน้อยมาก ไม่ได้ทำการทดสอบเทคโนโลยีแต่สามารถให้คำแนะนำการปลูกข้าวเช่นเดียวกับจังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดสมุทรสาคร
ศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 550 |
|
ผลผลิตปานกลาง |
R2 |
450-550 |
|
ผลผลิตต่ำ |
R3 |
350-450 |
|
ผลผลิตต่ำมาก |
R4 |
< 350 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 กข31 และสุพรรณบุรี 60 พื้นที่มากกว่าร้อยละ 50 มีความเหมาะสมมากต่อการปลูกข้าวมาก ส่วนใหญ่อยู่ด้านบนของอำเภอบางบ่อ การจัดการที่เหมาะสมสามารถเพิ่มผลผลิตได้ ประมาณร้อยละ 20
ระดับความเหมาะสมของดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการเพาะปลูก |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 |
พิษณุโลก 90
|
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ |
735 |
พันธุ์ข้าวนาปีที่สามารถปลูกในพื้นที่จังหวัดสระบุรี อย่างน้อยมี 6 พันธุ์ คือ ขาวดอกมะลิ 105 ขาวตาแห้ง 17 เจ๊กเชย เหลืองพานทอง พวงเมล็ดสั้น และ พวงขนุน กระจายอยู่ตามพื้นที่ ที่มีความเหมาะสมหรือหน่วยแผนที่ดินต่างกัน มีการจัดการเพาะปลูกและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม สามารถให้ผลผลิตสูงสุด 500 กิโลกรัมต่อไร่
ตารางแสดง ศักยภาพการให้ผลผลิตข้าว ของจังหวัดสระบุรี
พันธุ์ข้าวนาปรังที่สามารถปลูกในพื้นที่จังหวัดสระบุรี อย่างน้อยมี 4 พันธุ์ ได้แก่ สุพรรณบุรี 1 ชัยนาท1 พิษณุโลก 2 และ ปทุมธานี 1 กระจายอยู่ตามพื้นที่ ที่มีความเหมาะสมหรือหน่วยแผนที่ดินต่างกัน มีการจัดการเพาะปลูกและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสมแตกต่างกัน สามารถให้ผลผลิตสูงสุด 750 กิโลกรัมต่อไร่
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กก.ไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
1 |
>550 |
90 |
พื้นที่ไม่เหมาะสม |
10 |
ดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการ |
ผลผลิตสูงสุด |
L1 เหมาะสมมาก |
สุพรรณบุรี 1 ชัยนาท 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 กข31 (ปทุมธานี 80) |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม |
750 |
ขาวดอกมะลิ105 ขาวตาแห้ง17 เหลืองพานทอง กข35 (รังสิต 80) |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม |
550 |
|
L2 เหมาะสมปานกลาง |
สุพรรณบุรี 1 ชัยนาท 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 กข31 (ปทุมธานี 80) |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม |
700 |
ขาวดอกมะลิ 105 ขาวตาแห้ง 17 เหลืองพานทอง กข35 (รังสิต 80) |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยอัตราตามคำแนะนำ หรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
500 |
|
L3 เหมาะสมปานน้อย |
สุพรรณบุรี 1 ชัยนาท 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 กข31 (ปทุมธานี 80) |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม |
600 |
ขาวดอกมะลิ 105 ขาวตาแห้ง 17 เหลืองพานทอง กข35 (รังสิต 80) |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม |
450 |
การใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ ใช้ปุ๋ยสูตร 16-12-8, 18-12-6 หรือ 16-20-0 เป็นปุ๋ยรองพื้นหลังหว่านข้าว 20 วัน และปุ๋ย 46-0-0 เป็นปุ๋ยแต่งหน้าระยะข้าวแตกกอและระยะกำเนิดช่อดอก โดยใช้อัตราตามชนิดของข้าว ดังนี้
ระยะการใส่ปุ๋ย |
ข้าวไวต่อช่วงแสง |
ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง |
ปุ๋ยรองพื้น 16-16-8,16-12-8 18-12-6หรือ 16-20-0 |
25 กิโลกรัมต่อไร่ |
30 กิโลกรัมต่อไร่ |
ปุ๋ยแต่งหน้า 46-0-0 |
5 กิโลกรัมต่อไร่ |
10 กิโลกรัมต่อไร่ |
ซึ่งจะทำให้ได้ปุ๋ยอัตรา 6-6-6 หรือ 6-6-0 กก.N-P2O5-K2O/ไร่ สำหรับข้าวไวต่อช่วงแสง และ 12-6-6 หรือ 12-6-0 กก.N-P2O5-K2O/ไร่ สำหรับข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง โดยประมาณ ตามลำดับ
การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ปริมาณธาตุอาหารหลักที่ใส่ในนาข้าวตามค่าวิเคราะห์ดิน
อินทรียวัตถุ (%) ที่วิเคราะห์ได้ |
ปริมาณไนโตรเจน |
ปริมาณฟอสฟอรัส |
ปริมาณโพแทสเซียม |
|||
ข้าวไวแสง (กก.N/ไร่) |
ข้าวไม่ไวแสง |
ที่วิคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ |
ที่วิคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ (กก.K2O/ไร่) |
|
น้อยกว่า 1 |
9 |
18 |
น้อยกว่า 5 |
6 |
น้อยกว่า 60 |
6 |
1 – 2 |
6 |
12 |
5 - 10 |
3 |
60 - 80 |
3 |
มากกว่า 2 |
3 |
6 |
มากกว่า 10 |
0 |
มากกว่า 80 |
0 |
ศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 550 |
|
ผลผลิตปานกลาง |
R2 |
450-550 |
|
ผลผลิตต่ำ |
R3 |
350-450 |
|
ผลผลิตต่ำมาก |
R4 |
< 350 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 กข31 และ กข41 พื้นที่มีความเหมาะสมต่อการปลูกข้าวมาก ประมาณร้อยละ 90 ของพื้นที่ การจัดการที่เหมาะสมช่วยเพิ่มผลผลิตข้าวได้มากกว่า 1,000 กิโลกรัมต่อไร่
ระดับความเหมาะสมของดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการเพาะปลูก |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 ชัยนาท 1 พิษณุโลก 2 กข31 และ กข41 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
1,042 |
L2 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 ชัยนาท 1 พิษณุโลก 2 กข31 และ กข41 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
550 |
L3 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 ชัยนาท 1 พิษณุโลก 2 กข31 และ กข41 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
550 |
Loc |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 ชัยนาท 1 พิษณุโลก 2 กข31 และ กข41 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
550 |
ศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 850 |
|
ผลผลิตปานกลาง |
R2 |
701-850 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ พิษณุโลก 2 กข41 กข47 และชัยนาท 1 พื้นที่มีความเหมาะสมมากต่อการปลูกข้าวมากเป็นส่วนใหญ่ การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมสามารถเพิ่มผลผลิตได้สูงสุด 868 กิโลกรัมต่อไร่ เพิ่มผลผลิตข้าวได้ ร้อยละ 27
ระดับความเหมาะสมของดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการเพาะปลูก |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 |
พิษณุโลก 2 กข41 กข47 ชัยนาท 1 |
ใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน |
868 |
L2 |
พิษณุโลก 2 กข31 กข29 กข47
|
ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ |
796 |
L3 |
พิษณุโลก 2 กข41 กข47 ชัยนาท 1 |
ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ |
752 |
Loc |
พิษณุโลก 2 กข31 กข29 กข47
|
ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำ |
859 |
ศักยภาพการให้ผลผลิตข้าว ของจังหวัดสุพรรณบุรี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กก.ไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
1 |
>550 |
100 |
พันธุ์ข้าวที่สามารถปลูกในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ได้แก่ สุพรรณบุรี 1เป็นส่วนใหญ่ ส่วนสุพรรณบุรี 2 พันธุ์อื่น ๆ มีเพียงเล็กน้อย กระจายอยู่ตามพื้นที่ ที่มีความเหมาะสมหรือหน่วยแผนที่ดินต่างกัน มีการจัดการเพาะปลูกและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม สามารถให้ผลผลิตสูงสุด 887 กิโลกรัมต่อไร่
ดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการ |
ผลผลิตข้าวสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 เหมาะสมมาก |
สุพรรณบุรี 1 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยอัตราตามคำแนะนำ |
887 |
L2 เหมาะปานกลาง |
สุพรรณบุรี 1 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยอัตราตามค่าวิเคราะห์ดิน |
722 |
การใช้ปุ๋ยตามคำแนะนำ ใช้ปุ๋ยสูตร16-20-0,18-12-6 หรือ12-18 -6 เป็นปุ๋ยรองพื้นหลังหว่านข้าว 20 วัน และปุ๋ย 46-0-0 เป็นปุ๋ยแต่งหน้าระยะข้าวแตกกอและระยะกำเนิดช่อดอก โดยใช้อัตราตามชนิดของข้าว ดังนี้
ระยะการใส่ปุ๋ย |
ข้าวไวต่อช่วงแสง |
ข้าวไม่ไวต่อช่วงแสง |
ปุ๋ยรองพื้น 18-12-6 , 12-18-6 หรือ 16-20-0 |
25 กิโลกรัมต่อไร |
30 กิโลกรัมต่อไร่ |
ปุ๋ยแต่งหน้า 46-0-0 |
5 กิโลกรัมต่อไร่ |
10 กิโลกรัมต่อไร่ |
การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ปริมาณธาตุอาหารหลักที่ใส่ในนาข้าวตามค่าวิเคราะห์ดิน
อินทรียวัตถุ (%) ที่วิเคราะห์ได้ |
ปริมาณไนโตรเจน |
ปริมาณฟอสฟอรัส |
ปริมาณโพแทสเซียม |
|||
ข้าวไวแสง (กก.N/ไร่) |
ข้าวไม่ไวแสง (กก.N/ไร่) |
ที่วิคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ (กก.P2O5/ไร่) |
ที่วิคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ (กก.K2O/ไร่) |
|
น้อยกว่า 1 |
9 |
18 |
น้อยกว่า 5 |
6 |
น้อยกว่า60 |
6 |
1 – 2 |
6 |
12 |
5 - 10 |
3 |
60 - 80 |
3 |
มากกว่า 2 |
3 |
6 |
มากกว่า 10 |
0 |
มากกว่า 80 |
0 |
ศักยภาพการให้ผลผลิตข้าว ของจังหวัดอ่างทอง
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต ( R ) |
ระดับผลผลิต (กก.ไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
1 |
>550 |
95 |
พื้นที่ไม่เหมาะสม |
5 |
พันธุ์ข้าวที่นิยมปลูกในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ได้แก่ สุพรรณบุรี1 ปทุมธานี1 ชัยนาท1 และ สุพรรณบุรี 2 กระจายอยู่ตามพื้นที่ชลประทาน ส่วนนาในที่ลุ่มปลูกข้าวไวต่อช่วงแสงเพียงเล็กน้อย มีการจัดการเพาะปลูกและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม สามารถให้ผลผลิตสูงสุด 925 กิโลกรัมต่อไร่
ดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการ |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 เหมาะสมมาก |
สุพรรณบุรี 1 ชัยนาท 1ปทุมธานี 1 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยอัตราตามคำแนะนำ หรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
925 |
L2 เหมาะสมปานกลาง |
สุพรรณบุรี 1 เหลืองประทิวชัยนาท 1ปทุมธานี 1 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยอัตราตามคำแนะนำ |
646 |
คำแนะนำการใช้เทคโนโลยีตามศักยภาพการผลิต
ในนาดินเหนียว
- พันธุ์ข้าวนาปรังไม่ไวต่อช่วงแสง (อายุเก็บเกี่ยวไม่ เกิน 120 วัน)
- ปุ๋ยครั้งแรก ใส่ปุ๋ยแอมโมเนียมฟอสเฟต สูตร 16-20-0 ในอัตรา 30 กก./ไร่ ในระยะ 20 วันหลังหว่านข้าว
- ครั้งที่สอง และครั้งที่สาม ใส่ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ในอัตรา 10 กก./ไร่ ในระยะข้าวแตกกอ
สูงสุด และกำเนิดช่อดอก (45 และ 60 วันหลังหว่านข้าว)
- พันธุ์ข้าวนาปีไวต่อช่วงแสง
- ปุ๋ยครั้งแรก ใส่ปุ๋ยแอมโมเนียมฟอสเฟต สูตร 16-20-0 ในอัตรา 25 กก./ไร่ ใน
ระยะ 20-30 วันหลังหว่านข้าว
- ปุ๋ยครั้งที่สอง ใส่ปุ๋ยยูเรีย (46-0-0) ในอัตรา 10 กก./ไร่ ในระยะข้าวกำเนิดช่อดอก
ขณะใส่ปุ๋ยระดับน้ำควรมีความลึกระหว่าง 30-50 เซนติเมตร
ในนาดินทราย
การใส่ปุ๋ยครั้งแรกใส่ปุ๋ยเคมีสูตร16-12-8 หรือสูตร 18-12-6 ใน อัตรา 30 กก./ไร่ สำหรับข้าวนาปรังไม่ไวต่อช่วงแสง และอัตรา 25 กก./ไร่ สำหรับข้าวนาปีไวต่อช่วงแสง สำหรับการใส่ปุ๋ยครั้งที่สองและสาม ใช้ปุ๋ยเคมีตามชนิดและอัตราเช่นเดียวกันกับนาดินเหนียว
การใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน ปริมาณธาตุอาหารหลัก ที่ใส่ในนาข้าวตามค่าวิเคราะห์ดิน
อินทรียวัตถุ (%) ที่วิเคราะห์ได้ |
ปริมาณไนโตรเจน |
ปริมาณฟอสฟอรัส |
ปริมาณโพแทสเซียม |
|||
ข้าวไวแสง (กก.N/ไร่) |
ข้าวไม่ไวแสง (กก.N/ไร่) |
ที่วิคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ (กก.P2O5/ไร่) |
ที่วิคราะห์ได้ (ส่วนในล้านส่วน) |
ที่ต้องใส่ (กก.K2O/ไร่) |
|
น้อยกว่า 1 |
9 |
18 |
น้อยกว่า 5 |
6 |
น้อยกว่า 60 |
6 |
1 – 2 |
6 |
12 |
5 - 10 |
3 |
60 - 80 |
3 |
มากกว่า 2 |
3 |
6 |
มากกว่า 10 |
0 |
มากกว่า 80 |
0 |
ศักยภาพผลผลิตข้าวจากการใช้เทคโนโลยี
ศักยภาพการให้ผลผลิต |
ระดับผลผลิต (R) |
ระดับผลผลิต (กิโลกรัมต่อไร่) |
% |
ผลผลิตสูง |
R1 |
> 550 |
|
ผลผลิตปานกลาง |
R2 |
450-550 |
|
ผลผลิตต่ำ |
R3 |
350-450 |
|
ผลผลิตต่ำมาก |
R4 |
< 350 |
|
รวม |
|
พันธุ์ข้าวที่เกษตรกรนิยมปลูกส่วนใหญ่ใช้พันธุ์ สุพรรณบุรี 3 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 กข31 และ กข47 กระจายอยู่ตามพื้นที่ที่มีความเหมาะสมมากต่อการปลูกข้าวปานกลางเป็นส่วนใหญ่ การจัดการที่เหมาะสมสามารถยกระดับผลผลิตมากกว่า 550 กิโลกรัมต่อไร่
ระดับความเหมาะสมของดิน |
พันธุ์ข้าว |
การจัดการเพาะปลูก |
ผลผลิตสูงสุด (กิโลกรัมต่อไร่) |
L1 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 กข31 และ กข47 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
702 |
L2 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 กข31 และ กข47 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
550 |
L3 |
สุพรรณบุรี 1 ปทุมธานี 1 พิษณุโลก 2 ชัยนาท 1 กข31 และ กข47 |
ปลูกวิธีหว่านน้ำตม ใส่ปุ๋ยตามคำแนะนำหรือตามค่าวิเคราะห์ดิน |
550 |