วิธีปฏิบัติและวิธีตรวจสอบในการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์
วิธีปฏิบัติ (Implementation) เกณฑ์กำหนด (Requirement)
และวิธีตรวจสอบ (Assessment and inspection procedures) ในการผลิตข้าวหอมมะลิอินทรีย์
องค์ประกอบการผลิต (Components) |
วิธีปฏิบัติและเกณฑ์กำหนด (Implementation and requirement) |
วิธีตรวจสอบ (Assessment and inspection procedures) |
(1) การจัดการพื้นที่ปลูก หรือแหล่งผลิต |
(1) กำหนดขอบเขตพื้นที่อย่างชัดเจนจัดทำแผนที่นารายโฉนดที่รวมกันเป็น ผืนใหญ่ มีพิกัด GPS โดยรอบแปลงนา จัดทำทะเบียนนารายเกษตรกร ข้อมูลสภาพแวดล้อม กิจกรรมเกษตรต่าง ๆ ในพื้นที่ ทั้งนี้ มีช่วงระยะปรับเปลี่ยน เข้าสู่ระบบอินทรีย์ 1 ปี |
(1) ตรวจพินิจสภาพแวดล้อมประกอบแผนที่และจุดพิกัดตรวจสอบนา และเจ้าของนาให้ตรงกันตามทะเบียนที่ได้รับและจำนวนพื้นที่นาของเกษตรกรแต่ละราย ให้รหัสนา/คนตรงกัน ตรวจกิจกรรมเกษตรอื่น ๆ ในพื้นที่ |
1.1 ดินและน้ำ |
1.1 ไม่มีวัตถุอันตรายที่อาจจะทำให้เกิดการตกค้างหรือปนเปื้อนในผลผลิตข้าว |
1.1 ตรวจพินิจสภาพแวดล้อมหากอยู่ในสภาวะเสี่ยง ให้เก็บตัวอย่างตรวจ |
1.2 แนวป้องกันการปนเปื้อน และปัจจัยเสี่ยง/ปัจจัยสนับสนุน |
1.2 พื้นที่โดยรอบ โดยเฉพาะด้านบนที่ น้ำไหลลงมา จะต้องไม่มีแหล่งกำเนิดวัตถุอันตราย หากมีจะต้องทำแนวป้องกันการปนเปื้อนทั้งทางน้ำและทางอากาศ |
1.2 ตรวจพินิจสภาพแวดล้อม แนวป้องกันการปนเปื้อนที่จัดทำขึ้น เช่น คันนาขนาดใหญ่ สำรวจแหล่งต้นน้ำเข้านา ทำข้อมูลปัจจัยสนับสนุน เช่น ป่าไม้ |
1.3 กิจกรรมเกษตร อื่น ๆ ในพื้นที่ |
1.3 สนับสนุน/เกื้อกูลการผลิตข้าวอินทรีย์หากขัดกับข้อกำหนดจะต้องแบ่งแยกชัดเจน |
1.3 ตรวจพินิจและสอบถามกิจกรรม ในพื้นที่ ประเมินการเกื้อกูล/ความเสี่ยง |
(2) การจัดการ เพาะปลูกข้าว หรือวิธีการผลิต |
(2) จะต้องจัดทำแผนการเพาะปลูกข้าวอินทรีย์ในทุกองค์ประกอบ เสนอให้หน่วยตรวจสอบ/รับรอง และร่วมแก้ไขปรับปรุงให้เหมาะสม |
(2) ประเมินแผนการผลิตว่าตรงกับหลักการเกษตรอินทรีย์ หากมีข้อใดขัด กับหลักการให้แนะนำและแก้ไข ปรับปรุงร่วมกับผู้ผลิต (ชาวนา) |
2.1 พันธุ์ข้าวและ เมล็ดพันธุ์ |
2.1 ใช้พันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ 105 หรือ กข15 จากแหล่งเมล็ดพันธุ์ข้าวอินทรีย์ หรือขยายพันธุ์ข้าวใช้เองภายในกลุ่มผู้ปลูกข้าวอินทรีย์ |
2.1 ตรวจสอบพันธุ์ข้าวตรงตามมาตรฐานและแหล่งที่ได้มาของเมล็ดพันธุ์ข้าว จำนวนเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ใช้ ในฤดูปลูก |
2.2 การเตรียมดิน |
2.2 ไถเตรียมดิน โดยการไถดะและไถแปรโดยใช้รถแทรกเตอร์ หรือแรงงานสัตว์ ในช่วง เดือน เม.ย.-พ.ค.แล้วพรวนกลบเมล็ดข้าว ในกรณีหว่านข้าวแห้ง หรือพรวนคราด ในสภาพน้ำขังสำหรับปักดำ |
2.2 ตรวจพินิจการไถพรวนและการใช้เครื่องมือจักรกลและอุปกรณ์ว่าสอดคล้องกับสุขลักษณะที่ดี |
2.3 วิธีปลูก |
2.3 ปลูกโดยวิธีหว่านข้าวแห้ง (ในแหล่งที่วัชพืชไม่รุนแรง) ในเดือน พ.ค. อัตรา 15 กก./ไร่ โดยผสมเมล็ดพันธุ์ถั่วเขียว 5 กก./ไร่ เพื่อช่วยคลุมดินและเป็นปุ๋ยพืชสด หรือปลูกโดยวิธีปักดำ อัตรา 10 กก./ไร่ ตกกล้าเดือนมิ.ย. อัตรา 70 กรัม/ม.2 มีน้ำเลี้ยงแปลงกล้าตลอดอายุกล้า 30-35 วัน ปักดำ ระยะ 25x25 ซม. โดยประมาณ ในเดือน ก.ค.-ส.ค. |
2.3 ตรวจประเมินวิธีปลูกว่าเหมาะสม ตามสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศของปีเพาะปลูกนั้น ๆ ปัญหาที่เกิดขึ้น ใน ขั้นตอนนี้ ที่อาจจะมีผลกระทบต่อผลผลิตและคุณภาพข้าว |
2.4 การจัดการน้ำ |
2.4 ดูแลรักษาคันนาให้เก็บน้ำได้ดี ช่วงตกกล้าและปักดำอาจใช้น้ำใต้ดินและน้ำจากบ่อสำรองน้ำเสริม ในกรณีที่น้ำฝนไม่เพียงพอและ/หรืออาจใช้น้ำจากแหล่งชลประทานก็ได้ ก่อนข้าวสุกแก่ 10-15 วัน ให้ระบายน้ำออกจากนา เพื่อให้ดินนาแห้งทั่วกัน |
2.4 ตรวจประเมินวิธีกักเก็บน้ำในนา ที่มา หรือแหล่งน้ำ โอกาสในการปนเปื้อนของสารเคมีและสารพิษสู่นาข้าว หากมีความเสี่ยงให้ตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างน้ำ ในช่วงเวลาดังกล่าว |
2.5 การจัดการความ อุดมสมบูรณ์ของดิน |
2.5 เริ่มจากการไกกลบตอซัง เดือน ธ.ค.-มี.ค. ปลูกพืชปุ๋ยสด เช่น ปอเทือง โสนอัฟริกัน หรือถั่วเขียว อัตรา 5 กก./ไร่ ช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย. และไถกลบ หากพิจารณาว่าปริมาณธาตุอาหารพืชยังไม่เพียงพอ ใส่ปุ๋ยหมัก/ปุ๋ยคอก จากแหล่งในพื้นที่ ที่ไม่ใช้สารเคมีหรือสารปฏิชีวนะในการเลี้ยงอัตรา 200-1,000 กก./ไร่ ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดินและปริมาณธาตุอาหารพืช ที่ได้จากตอซังและปุ๋ยพืชสดแล้ว |
2.5 ตรวจสอบที่มาของวัสดุที่นำมาใช้ คือ เมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก และสารปรับปรุงดินอื่น ๆ เช่น โดโลไมท์ หินฟอตเฟต บันทึกปริมาณที่ใช้และติดตามผลของการจัดการความอุดมสมบูรณ์ของดิน การใช้เครื่องจักรกลในการเตรียมปุ๋ยอินทรีย์ และไถกลบ รวมทั้งช่วงเวลาที่ปฏิบัติงาน |
2.6 การป้องกันและกำจัด ศัตรูข้าว |
2.6 ป้องกันกำจัดตามความจำเป็น โดยเน้นสมดุลของศัตรูธรรมชาติและความแข็งแรงของต้นข้าว ก่อนที่จะใช้สารจากธรรมชาติ หรือสารอินทรีย์ ที่อนุญาตให้ใช้ได้ |
2.6 ตรวจประเมินและบันทึกการระบาดหรือความรุนแรงของศัตรูข้าว และวิธีควบคุมหรือป้องกันกำจัด |
2.6.1 สัตว์ศัตรูข้าว |
2.6.1 ปูและหอยเชอรี่ ให้ลดระดับน้ำในนา ใช้กับดักหรือจับมาเป็นอาหารสัตว์เลี้ยงและทำน้ำหมักชีวภาพ หากจำเป็น ให้ใช้พืชมีพิษกำจัด เช่น โล่ติ๊น ใบยาสูบ นกและหนูให้ใช้กับดัก ใช้คนไล่ และวิธีล้อมรั้วป้องกัน อนุรักษ์ศัตรูธรรมชาติ เช่น งู เหยี่ยว พังพอน เป็นต้น |
2.6.1 กรณีใช้วัสดุอุปกรณ์กำจัด ให้ตรวจแหล่งที่มาและบันทึกผล การใช้ สังเกตและบันทึกชนิดและความรุนแรง ปริมาณศัตรูธรรมชาติ
|
2.6.2 แมลงศัตรูข้าว |
2.6.2 รักษาระดับน้ำให้พอดี สำหรับต้นข้าวให้มีความแข็งแรงและ สนับสนุน แมลงศัตรูธรรมชาติ ให้รักษาสมดุลปริมาณแมลงในนา กรณีมีการระบาดมากอาจใช้สารที่อนุญาตให้ใช้ได้ เช่น สะเดา กำมะถัน น้ำหมัก สมุนไพร เป็นต้น |
2.6.2 ตรวจประเมินและบันทึกการระบาดและวิธีป้องกันกำจัด (ถ้ามี) ตรวจชนิดสารที่ใช้และแหล่งที่มา |
2.6.3 โรคข้าว |
2.6.3 ให้ธาตุอาหารพืชอย่างสมดุลโดยเฉพาะธาตุไนโตรเจนจะต้องไม่มากเกินไป จะได้ต้นข้าวที่แข็งแรง ทนทานต่อโรค กรณีมีการระบาดมากอาจใช้สารจากพืช สัตว์และแร่ธาตุธรรมชาติที่อนุญาต เช่น บอร์โดมิกเจอร์ หรือจุลินทรีย์ |
2.6.3 ตรวจประเมินและบันทึกการระบาดและวิธีป้องกันกำจัด (ถ้ามี) ตรวจชนิดและแหล่งที่มาของสารที่ใช้
|
2.6.4 วัชพืช |
2.6.4 กรณีแหล่งปลูกมีวัชพืชมาก ให้ทำนาดำ รักษาระดับน้ำขังในนาให้พอดีตามระยะการเติบโตของข้าว เตรียมดินให้ราบเรียบสม่ำเสมอและจมน้ำโดยทั่ว หากยังมีวัชพืชอยู่ในนา ให้ถอนหรือใช้เครื่องมือกำจัดวัชพืช |
2.6.4 ตรวจประเมินและบันทึกวิธีการเตรียมดินและวิธีปลูก ปริมาณวัชพืชในนา การถอน หรือใช้เครื่องมือกำจัดวัชพืช |
2.7 การเก็บเกี่ยวและลดความชื้นข้าวเปลือก |
2.7 เก็บเกี่ยวข้าวที่ระยะพลับพลึง หลังออกรวงประมาณ 28-32 วัน โดยใช้คนเกี่ยวด้วยเคียวหรือเครื่องเกี่ยววางราย ตากสุ่มซัง 2-3 วัน แล้วรวมกองไว้รอการนวดด้วยแรงคน หรือเครื่องนวดข้าวต่อไป หรืออาจใช้เครื่องเกี่ยวนวดแล้วลดความชื้นภายใน 24 ชม. หลังเก็บเกี่ยว กรณีใช้เครื่องนวดข้าวหรือเครื่องเกี่ยวนวด (Combined harvester) ให้ทำความสะอาดเครื่องและกำจัดเมล็ดข้าวที่ติดมากับเครื่องก่อนไปปฏิบัติงาน |
2.7 ตรวจพินิจการเก็บเกี่ยวตากและนวด การแยกข้าวอินทรีย์จากข้าวทั่วไป สุ่มเก็บตัวอย่างข้าวเปลือก รักษาไว้เพื่อการทวนสอบ |
(3) การจัดการ ผลผลิตข้าว |
(3) จะต้องแจ้งประมาณการผลผลิตที่คาดว่า จะได้ กำหนดการเก็บเกี่ยว เมื่อบรรจุกระสอบแล้วติดรหัส เก็บรักษาเบื้องต้นระหว่างขนย้าย แปรรูป และบรรจุผลิตภัณฑ์แต่ละครั้ง (Lot) |
(3) ตรวจปริมาณผลผลิต การบรรจุและติดรหัส บันทึกปริมาณผลผลิต เก็บตัวอย่างไปตรวจวิเคราะห์คุณภาพและสารตกค้าง (กรณีที่มีความเสี่ยง) |
3.1 การขนย้าย ผลผลิตข้าวเปลือก |
3.1 อุปกรณ์ (กระสอบ) ที่ใช้บรรจุและพาหนะขนย้าย จะต้องสะอาด ปราศจากการปนเปื้อนของวัตถุอันตรายและจากข้าวอื่น ๆ |
3.1 ตรวจบันทึกปริมาณผลผลิต ที่ขนย้ายเอกสารประกอบการ ซื้อขาย/รวบรวมผลผลิตข้าวเปลือกในแต่ละงวดที่ดำเนินการ |
3.2 การเก็บรักษาข้าวเปลือก
|
3.2 สถานที่เก็บรักษาจะต้องสะอาดและถูกสุขลักษณะ เป็นโรงเก็บที่แยกมาเป็นสัดส่วน สามารถป้องกันการปนจากข้าวทั่วไปได้ มีการระบายอากาศดี กำจัดศัตรูข้าวในโรงเก็บด้วยวิธีกลและการรักษาความสะอาดในโรงเก็บ |
3.2 ตรวจสถานที่เก็บรักษาผลผลิต บันทึกปริมาณผลผลิตที่นำเข้า เก็บรักษา |
3.3 การแปรรูป (การสีข้าว) |
3.3 ก่อนการสีข้าวจะต้องทำความสะอาดและกำจัดข้าวปนออกจากเครื่องสีข้าว แจ้งปริมาณ (lot) ข้าว ที่จะแปรรูปให้แก่หน่วยตรวจสอบ เมื่อแปรรูปแล้ว จัดเก็บข้าวสาร/ข้าวกล้องที่ได้แยกจากข้าวทั่วไป แล้วแจ้งหน่วยตรวจสอบ |
3.3 ตรวจพินิจการทำความสะอาด เครื่องสีข้าว เก็บตัวอย่างข้าวเปลือกที่จะแปรรูป บันทึกปริมาณและรหัสข้าวที่จะแปรรูป ตรวจบันทึกข้าวสาร/ข้าวกล้องที่ได้จากการแปรรูป เก็บตัวอย่างข้าวแต่ละ Lot |
3.4 การบรรจุผลิตภัณฑ์ (ข้าวสาร ข้าวกล้อง) |
3.4 ขนส่งหรือลำเลียงข้าวสาร/ข้าวกล้องไปคัดคุณภาพ (grading) และบรรจุถุงขนาดต่าง ๆ ป้องกันแมลงในถุงผลิตภัณฑ์ ด้วยการบรรจุแบบสุญญากาศหรือเติมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ |
3.4 ตรวจสอบปริมาณผลิตภัณฑ์ การบรรจุผลิตภัณฑ์ และบันทึกรายงาน |
(4) การบันทึกข้อมูล |
(4) ต้องมีการบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวกับการได้มาซึ่งวัสดุที่นำเข้ามาใช้ในระบบการผลิต การปฏิบัติในขั้นตอนต่าง ๆ ตามองค์ประกอบการผลิต ลงในแบบฟอร์มที่หน่วยรับรองกำหนด |
(4) บันทึกรายงานผลการตรวจประเมิน/ตรวจสอบและตรวจวิเคราะห์ ให้แก่หน่วยรับรอง (Certify body) เพื่อพิจารณาให้การรับรองผลิตภัณฑ์ |